รู้ไว้ไม่งง! 7 คำศัพท์ที่ต้องรู้ก่อนเดินเข้าร้านทองเพื่อซื้อ "ทองรูปพรรณ"

การเดินเข้าร้านทองครั้งแรกอาจทำให้หลายคนรู้สึกประหม่า ทั้งแสงสีทองอร่ามเต็มร้าน ทั้งป้ายราคาที่มีตัวเลขหลายบรรทัด และคำศัพท์เฉพาะทางที่พนักงานพูดคุยกัน การไม่เข้าใจความหมายของคำเหล่านี้อาจทำให้เราเสียเปรียบหรือตัดสินใจพลาดได้ แต่ไม่ต้องกังวล! บทความนี้ได้รวบรวม 7 คำศัพท์สำคัญที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นผู้ซื้อ ทองรูปพรรณ ที่มีความรู้และความมั่นใจค่ะ
การเตรียมตัวที่ดีคือหัวใจสำคัญของการซื้อ-ขายที่คุ้มค่า มาดูกันว่ามีคำศัพท์อะไรบ้างที่คุณต้องรู้
1. ทอง 96.5% (ทองเยาวราช)
นี่คือคำศัพท์พื้นฐานที่สุดที่คุณจะได้ยินในร้านทองไทย "ทอง 96.5%" คือมาตรฐานของทองคำที่ใช้ทำ ทองรูปพรรณ ในประเทศไทย หมายความว่าในเนื้อทอง 100 ส่วน จะมีทองคำบริสุทธิ์อยู่ 96.5 ส่วน และอีก 3.5 ส่วนเป็นโลหะอื่นผสมเพื่อให้ทองมีความแข็งแรง คงรูปทรงได้ดี เหมาะกับการทำเป็นเครื่องประดับที่ต้องสวมใส่ ทองมาตรฐานนี้เป็นที่ยอมรับทั่วประเทศ ทำให้ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ว่าคุณจะนำไปขายที่ร้านไหนก็ตาม
2. น้ำหนักทอง (บาท / สลึง)
ในประเทศไทย เราไม่เรียกน้ำหนักทองเป็นกรัม แต่จะใช้หน่วย "บาท" และ "สลึง" เป็นหลัก
• 1 บาท มีน้ำหนักเท่ากับ 15.16 กรัม (สำหรับทองรูปพรรณ)
• 1 สลึง คือ 1 ใน 4 ของหนึ่งบาท (ดังนั้น 4 สลึง = 1 บาท)
• ครึ่งสลึง คือน้ำหนักที่น้อยที่สุดที่นิยมทำเป็น ทองรูปพรรณ
การเข้าใจหน่วยน้ำหนักนี้จะทำให้คุณประเมินราคาคร่าวๆ ของทองชิ้นที่สนใจได้
3. ค่ากำเหน็จ
นี่คือคำที่มือใหม่สับสนที่สุด "ค่ากำเหน็จ" คือ ค่าแรงหรือค่าฝีมือในการผลิต ทองรูปพรรณ จากทองคำแท่งให้กลายเป็นลวดลายต่างๆ ที่สวยงาม ซึ่งเป็นต้นทุนที่บวกเพิ่มจากราคาทองตามน้ำหนัก ทองลายยากๆ หรือดีไซน์ใหม่ๆ จะมีค่ากำเหน็จสูงกว่าลายพื้นฐานทั่วไป สิ่งสำคัญคือ ค่ากำเหน็จเป็นต้นทุนที่จ่ายครั้งเดียวและมักไม่ได้คืนเต็มจำนวนเมื่อนำทองไปขายต่อ
4. ราคาขายออก
บนป้ายราคาทองในร้าน "ราคาขายออก" คือ ราคาที่ร้านทองจะขาย ทองรูปพรรณ ให้กับคุณ โดยราคานี้จะเป็นราคาต่อทองน้ำหนัก 1 บาท และ ยังไม่รวมค่ากำเหน็จ ดังนั้น เวลาคำนวณเงินที่ต้องจ่ายจริง ต้องนำราคาขายออก บวกกับค่ากำเหน็จของทองชิ้นนั้นๆ เสมอ
5. ราคารับซื้อคืน
ตรงกันข้ามกับราคาขายออก "ราคารับซื้อคืน" คือ ราคาที่ร้านทองจะรับซื้อ ทองรูปพรรณ คืนจากคุณ ซึ่งราคานี้จะต่ำกว่าราคาขายออกเสมอเพื่อเป็นกำไรของร้านค้า หากคุณต้องการขายทองคืน ต้องยึดราคาช่องนี้เป็นหลักในการประเมิน
6. เปอร์เซ็นต์หักตอนขายคืน
เมื่อคุณนำ ทองรูปพรรณ ที่ผ่านการใช้งานแล้วไปขายคืน ร้านทองส่วนใหญ่มักจะหักค่าเสื่อมสภาพหรือค่าหลอมประมาณ 3-5% จาก "ราคารับซื้อคืน" ที่ประกาศไว้ เนื่องจากทองที่ใส่แล้วอาจมีสิ่งสกปรกติดอยู่หรือมีน้ำหนักลดลงเล็กน้อย การรู้เรื่องนี้ไว้จะทำให้คุณไม่ตกใจเมื่อได้ราคาขายจริงที่ต่ำกว่าราคาป้ายเล็กน้อย
7. ตอกโค้ด / ใบรับประกัน
ทองรูปพรรณ ที่ได้มาตรฐานจะต้องมีการ "ตอกโค้ด" หรือสัญลักษณ์ของร้านค้าและเปอร์เซ็นต์ทองไว้ที่ตัวเรือน เช่น บริเวณตะขอ และควรมาพร้อม "ใบรับประกัน" (Certificate) ซึ่งจะระบุน้ำหนัก เปอร์เซ็นต์ทอง และรายละเอียดอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพและช่วยให้การขายคืนในอนาคตสะดวกและได้ราคาดียิ่งขึ้น
การเรียนรู้คำศัพท์ทั้ง 7 คำนี้จะช่วยลดช่องว่างระหว่างคุณกับร้านทอง ทำให้การสื่อสารชัดเจนและตรงไปตรงมา ตอนนี้คุณก็พร้อมแล้วที่จะเดินเข้าร้านทองอย่างมั่นใจ และเลือกซื้อ ทองรูปพรรณ ชิ้นโปรดได้อย่างชาญฉลาดและมีความสุข! ผู้อ่านท่านใดที่มีความสนใจในเรื่องทองรูปพรรณ หรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ค่ะ